ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สร้างนิสัย รักการเรียนรู้ให้ลูกของเรา

หาก อยากให้ลูกเป็นคนเก่งจริง ความรู้ดีนั้น


มันเริ่มจากพื้นฐานง่ายๆ คือ มันเริ่มจากพื้นฐาน


หากเด็กชื่นชอบการอ่านหนังสือนั้นมันดีมาก


พ่อแม่ ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูกก่อนครับ


พ่อแม่ ต้อง ขยัน อ่านหนังสือให้ลูกเห็นบ่อยๆ


ในบ้านต้องมีหนังสือสำหรับเด็กที่มากพอ



เวลาว่าง พาเด็กเข้าร้านหนังสือ เลือกซื้อหนังสือเล่มโปรด


*****พาเด็กเข้าห้องสมุด บ้าง ในบางครั้ง****


+++ฝึกลูก ในการค้นหาข้อมูลผ่าน google+++


และ สุดท้าย สื่อการสอน ความรู้ดี มีมากมาย ใน Youtube ครับ ฟรีด้วย



วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

คุณพ่อ พาทำ ตอนพาลูกออกกำลังกาย กันเถอะ

หาก อยากให้ลูกของเราแข็งแรง สุขภาพดี ต้องออกกำลังกายครับ


++ผมเอง อยากให้ลูกแข็งแรง มีสุขภาพดี สมชื่อ ศักย์สพล++


+++ผมต้อง พาลูกชายไป ออกกำลังกาย เป็นประจำ ทุกวัน++


***เริ่ม จาก เดิน สลับ วิ่งยามเช้า 5000 ก้าว***


พาลูกยกดัมเบล เพื่อสร้างเสริมกล้ามเนื้อ บริเวณแขน ไหล่ และหลัง


++ตอนบ่ายๆ ยัง พาลูกไปว่ายน้ำ อีกวันละ  90 นาที ++


**ตอนค่ำ พาลูกชาย วิดพื้น และ ซิตอัพ อีกด้วย **




พ่อ ลูก ออกกำลังกาย ร่วมกัน แหมมันงดงามสุดๆ


ตอนนี้ ลูกชายผมว่ายน้ำเก่งขึ้น มาก และดูแข็งแรง


**ดูดี มาก ๆ  และ ตัวผมเอง น้ำหนักลดลงไป 12 กก. ครับ**


พ่อ ลูก แข็งแรง และ สนุกสนาน ร่วมกัน มันใช่เลยครับ 




วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เสริมพลัง จุดแข็งของลูก work กว่ามาก

หาก อยากให้ลูกของเราก้าวหน้า ประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น


ความเก่งกาจในการทำงาน และ ความรู้ เป็นสิ่งสำคัญมากๆ


เด็กแต่ละคน มี พรสรรค์ และ ความถนัดที่แตกต่างกันไป




***การจะสอน ให้นกเขา ว่ายน้ำมัน เป็นไปได้***


เช่นเดียว กับ การสอนให้ปลาช่อน บินได้เหมือนนก


****ก็เป็นเรื่อง เพ้อเจ้อ ไร้สาระ เช่นเดียวกัน ครับ***


ดังนั้น การพัฒนาจุดแข็ง จึงเป็นเรื่องง่ายกว่ามาก


ในทางตรงกัน ข้าม การแก้ไขปัญหาจุดอ่อน มันยากมาก


***การที่ส่งเสริม ให้ลูก ทำสิ่งที่ตนรักนั้น มันดีสุดๆ***


มันคือหน้าที่พ่อแม่ ที่จะพัฒนาลูก อย่างที่เขาเป็น


แล้ว นี่ อย่าลืม น่ะครับ ลูกเก่ง ลูกชอบอะไร


ก็ส่งเสริม สนับสนุน เรื่องนั้น ให้เด็ดสุดๆไปเลยครับ


วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

บทเรียน จากตอนแขนหัก ครั้งแรก

ราวๆ เดือน สิงหาคม 2557 ผมก็ได้ เกิดเหตุทางจราจร ขึ้น


ขี่มอเตอร์ไซต์ ไป สอนนักเรียนประถม ที่บ้านทุ่งโป่ง


สอนเรื่องยาคุมฉุกเฉิน และ ยาสามัญประจำบ้าน


ขับรถไปเอง เพราะ ขอรถโรงพยาบาล ไปยากมาก


และ ไม่อยากเป็นภาระกับนักศึกษาเภสัชศาสตร์ ปี 6 


ขากลับโรงพยาบาล ราวๆ 16.00 น. โดยประมาณ


ถนนลาดยางใหม่ ยังไม่แห้ง ไม่มีเส้นไหล่ทาง



โดน มอร์เตอไซต์วัยรุ่นเฉี่ยวชน จากท้ายรถ ด้านหลัง


รถของผมล้ม คว่ำไม่เป็นท่าเลย ผมรู้สึกชาๆ ที่มือ


เอารถขึ้นเอง ไม่ไหว มีสาวๆ ผ่านทางมาช่วยยกรถขึ้น 


กัดฟัน ขี่มอเตอร์ไซต์ กลับไปบ้านเลียบเขา เอง


รอรถ ambulance มารับไป ห้องฉุกเฉิน


หาหมออ้อม พาไป x rays แขน และ ข้อมือ


ใส่เฝือกชั่วคราว เอาไว้ก่อน พร้อมยาแก้ปวด


นอน ปวดระบม เป็นไข้ อยู่ 5 วันรวดเลยทีเดียว


สสจ. มานิเทศงาน ก็ไม่ได้ มารับ เพราะนอนซมไข้ขึ้นอยู่


อุบัติเหตุ ครั้งนี้ เกิดจาก ถนนทำการก่อสร้าง แล้วไม่กันรถ


ทำให้ ขับรถยากมาก  และ ไม่ได้ดูกระจกหลังรถมอเตอร์ไซต์


เพราะ กระจกมองหลัง ชำรุดไม่ซ่อมเสียที


เลยโชคดี โดนเฉี่ยวชนท้ายรถ  แต่อย่างไร


ผมยังโชคดี เพราะใส่ หมวกกันน็อคไว้ ก็เลย


หัวแข็ง ไม่เป็นอะไรเลย มีแขน ขาถลอกนิดๆ


และกระดูกข้อมือ หักไป 1 ตำแหน่งเท่านั้นเอง


วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เริ่มต้นอีกครั้ง กับการเดินเพื่อสุขภาพ ด้วย ihealth

                ไม่อยากป่วยแล้ว รู้สึกว่าอ้วนเกินไป  หากางเกงใส่ยากมาก อืดอาด ไม่แข็งแรง ดูโง่ เอาละเบื่อแล้ว อยากจะแข็งแรง ไม่อยากอ้วนมากขนาดนี้ กับน้ำหนัก 115 กก.ส่วนสูง 181 ซม. เลยคิดว่าเอาง่ายๆ ออกกำลังกาย แบบโคตรง่ายใครๆ ก็ทำได้ แค่เดินวันละ 10000 ก้าวทุกวัน และคุมอาหารบ้างไม่ให้กินเยอะเกินไป  เลยไปถอยนาฬิกา ออกมาใหม่ราคา 1700 บาท เล่นเอาภรรยาเคืองเลยว่า สีมันจ๊าบไป นาฬิกาเรือนนี้ สีฟ้าเป็นเครื่องนับก้าว คำนวณพลังงาน ที่ใช้ไปด้วยเสร็จเลย




       เดินเพื่อสุขภาพ  มานานนับเดือน  และควบคุมอาหารไปด้วยแบบอ้อมๆ ก็ได้ผลดี  น้ำหนักลดลงต่อเนื่อง  นอนหลับง่าย  ตัวเบาหวิว  แรกๆ  ก็มีอุปสรรคบ้างได้แก่ ปวดหัวไมเกรน  ท้องเสีย  ฝนตก  หริอต้องไปนอนที่บ้านเกษมทรัพย์  ก็ไม่หยุดเดิน  และไม่หยุดจดรายการอาหาร  เดินเพิ่มเรื่ิอยๆ  จาก  10000 ก้าว เป็น 18000 ก้าว และกินไม่เกิน  2000 kcl คงต้องดูผลกันต่อไปครับว่าจะโอไหม

วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เป้าหมายในการเลี้ยงลูก

                   สำหรับตัวผมเองแล้ว ผมมีเป้าหมายในการเลี้ยงลูกง่ายๆ แค่ 4 ข้อ ก็คือ

1 ลูกปลอดภัย แข็งแรงสุขภาพดี
2 ลูกเข้มแข็ง ดูแลตนเองได้
3 ลูกเป็นคนดี มีสัมมาอาชีพ
4 ลูกมีความสุข ในชีวิต

          ผมไม่คาดหวังมากไป ที่ต้องการให้ลูกเก่งกว่าคนอื่น ดีกว่าคนอื่น หรือ เอาลูกมาอวด มาเชิดหน้าชูตาผมก็แค่นั้น  ผมไม่อยากให้ลูกต้องถูกกดดันขนาดนั้น ผมแค่ขอให้เขาปลอดภัย มีความสุข และเอาตัวรอดได้ก็พอแล้ว   แล้วทำอย่างไร ล่ะลูกจะมี ความสุข เป็นคนดี และ มีสัมมาอาชีพที่เลี้ยงตัวเองได้



          ผมกับภรรยา คงจะมอบกิจการสวนยางพารา และ สวนมะนาว ที่มีกำไรให้ลูกดูแลเก็บ
กินดอกผล และ กำไรจากการเป็นเกษตรกร ทั้งสองสวนไปได้ ส่วนเรื่องความสุขนั้น
ไม่ยากเจ้ากำปั้น มันเป็นเด็กอารมณ์ดี สนุกง่าย ขำง่ายมากอยู่แล่ว ผมคงสอนให้ลูก
รู้จักมองโลกในแง่ดี  และปล่อยวาง ชีวิตคงมีความสุข และอีกอย่าง คงต้องพาลูก
ออกกำลังกายหัดกินผักผลๆม้ดีๆ มีประโยชน์สะแล้ว ลูกจะได้แข็งแรง สุขภาพดี

วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

พ่อที่ดี ต้องรู้จริงๆ ว่าลูกเรามีดีอะไรบ้าง

ลูกชายผม เจ้ากำปั้น มี ข้อดีดังนี้



  1. รักการเรียน
  2. เชื่อฟังครูบาอาจารย์
  3. ประหยัด
  4. ร่าเริง
  5. อยู่ง่าย กินง่าย
  6. ภาษาอังกฤษดีมาก
  7. สามารถ hack เกมส์ คอมพิวเตอร์ได้
เมื่อท่านรู้จัก ข้อดี หรือ จุดเด่น ของลูกแล้ว ท่านจะสามารถ ต่อยอด ความสำเร็จ ของลูกได้ง่ายขึ้น สามารถนำมาชื่นชม ให้กำลังใจลูกได้ อย่างเต็มที่ และที่สำคัญ การพัฒนา จุดแข็งให้ ดีขึ้น ง่ายกว่าการแก้ไขจุดอ่อน ให้พอไปได้ หลายเท่า ดังนั้น พ่อแม่ที่ชาญฉลาด อย่าลืมดึงศักยภาพของลูกออกมา จากข้อดี ของเขาครับ ทำให้สนุก ทำให้เขาภูมิใจ ลองดูครับ

วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เรียนเต็มที่ พักผ่อนเต็ม 100

         

          ลูกชายผม ก็ต้องเรียนหนังสือ ทุกวัน ภรรยาผมจะคุมให้ลูกทำการบ้าน ทำคุมอง  2 วิชา คือ เลข กับ อังกฤษ  นอกจากกนี้ ก็ยังมีอ่านทบทวนบทเรียนไป เรื่อยๆ ทุกวัน  โดย จะให้ลูก เรียน 1 ชม. สลับการพัก 1 ชม. โดยการพักผ่อน ของเจ้ากำปั้น คือ

1 การเล่นเกมส์ Roblox หรือ Cokies Run
2 การดูคลิป Youtube
3 การเดินเล่น แกว่งดินสอ จินตนาการไปเรื่อย

         การพักผ่อน ลูกชายจะเน้นมาก หากได้พักน้อย เจ้ากำปั้น จะโวยวายทันที บางทีก็เสียน้ำตา แต่เพราะัพักผ่อนเต็มที่ นั่นแหละ   มันคือ Reward หลังจากตั้งใจเรียน มา 60 นาที ทำให้ลูกเต็มใจจะเรียนรู้ทุกๆ วัน เพราะหากไม่เรียน ก็อดเล่นสนุกๆ ครับ

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สอนลูกเล่นบาสเกตบอล

          ปกติผมเล่นกีฬาได้แย่มาก  แต่มีกีฬา 2 ชนิด ที่ทำได้ดี คือ บาสเกตบอล กับ ว่ายน้ำ คงเป็นเพราะกีฬาทั้งสองชนิด  ผมซ้อมบ่อยมาก ก็เลยเล่นได้ดี ในตอนแรก ผมเข้าใจแบบโง่ๆ ว่าผมไม่มีพรสวรรค์   เลยเล่นกีฬาได้ห่วย จริงๆ แล้ว มันเป็นกฏธรรมชาติ ง่ายๆ




 คือ กีฬาอะไรก็ตาม ซ้อมบ่อยๆ ซ้อมถูกวิธี ก็จะเล่นเก่งเอง  พรสรรค์ จะไม่มีค่าอันใด หากไม่ขยันฝึกซ้อม ปีนี้ลูกชายผม เจ้ากำปั้นเรียน บาสเกตบอล  ผมเลยพาลูกชายซ้อมบาสเกตบอลดังนี้

1 ซ้อมการจับลูกบอล
2 ซ้อมการเลี้ยงลูกบอล
3 ซ้อมการรับส่งลูกบอล
4 ซ้อมการยิงลูกบอล
5 ซ้อมการป้องกัน

การเล่นบาสเกตบอล ระหว่างพ่อกับลูก ทำให้ความสัมพันธ์พ่อลูกดีขึ้นมากอีกด้วย นับเป็น ประสบการณ์ที่น่าจดจำ ทุึกเช้า  ก่อนขึ้นรถไปเรียน ผมพาลูกซ้อมบาสเกตบอล ทุกวันครับ

วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ทำไงดี ลูกผมไม่กล้าอยู่คนเดียว

         ใช่แล้วครับ ลูกชายผมมันป๊อดมันกลัว ไม่กล้าอยู่คนเดียว ประมาณว่าเจ้ากำปั้นกลัวผี
นั่นแหละครับ หากอยู่บ้าน  2 คนพ่อลูก ผมจะไปฉี่ เจ้าลูกชายผม มันจะเดินตามไปด้วย จะ
อาบน้ำก็ ต้องมีพ่อแม่ อยู่ในสายตัว จะออกจากห้องนอนที  ต้องตามกลัวมากเลย ลูกผม
จะมโนไปเอง ว่ามีสิ่งน่ากลัวมากมาย ตรงนี้เองที่ผมหนักใจว่าทำยังไงให้ลูกหายกลัว ได้
 นี่จะขึ้นป.5 แล้ว อาการกลัวมากกว่าตอนเด็กๆ เสียอีกแนะ



ตแนนี้ ก็ต้อง  พูดเหตุผล  กับลูกไปก่อน   ว่าสิ่งที่ลูกกลัวนั้น ไม่มีอยู่จริง ไม่มี
จะกลัวไปทำไม  ความคิดของเรา ความกลัวของเรามันไม่ใช่ ความจริงสักหน่อย
จะกลัวไปทำไหม   นอกจากนี้ ยังให้ลูกห้อยพระเครื่อง จะได้อุ่นใจว่ามีพระ
คุ้มครองครับ ต้องดูต่อไปครับ ว่าจะได้ผลไหม  อาการกลัวผี ดีขึ้นครับ
แค่ยังไม่หายขาด ต้องห้ามลูกชาย ไปดูอะไรๆหน้ากลัวในเน็ตครับ 

วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ฝึกการอ่านให้ลูกด้วย การอ่านเว็บหนังสือพิมพ์

ผมเองคิดว่า พื้นฐานการศึกษา อยู่ที่การใช้ภาษา ได้แก่การอ่าน การเขียน นอกจากนี้ ก็คือ การคำนวณ
ผมฝึก ลูกชายเจ้ากำปั้น ให้อ่านหนังสือ จากเว็บข่าว หนังสือพิมพ์ ให้ลูกชาย อ่านข่าวที่น่าสนใจ น่าติดตาม และ ให้ลูก สามารถจับใจความของข่าวได้  นอกจากนี้ ผมก็ยังให้ลูกบอก ความรู้สึก หลังการอ่านข่าว และยัง ให้สรุปบทเรียนสอนใจได้อีกด้วย ยกตัวอย่าง ข่าวนี้ครับ

จำคุกคดีประวัติศาสตร์ หลอกขายทุเรียนอ่อน

ฮือฮาคดีประวัติศาสตร์ ศาลสั่งจำคุกพ่อค้าทุเรียน 15 วัน หลังมีนักท่องเที่ยวซื้อทุเรียนจากสวนไปกินรวม 20 ลูก พอฉีกกิน กลายเป็นทุเรียนอ่อนทั้งหมด เลยหอบทุเรียนมาแจ้งความตำรวจจับเจ้าของสวน ศาลสั่งจำคุกทันทีโดยไม่รอลงอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างและเป็นการทำลายภาคเกษตรกรของไทย
          โดยผมถามลูกว่า 
  1. ติดคุกนานกี่วัน
  2. ใครติดคุก
  3. ทำอะไรผิด
  4. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากข่าวคืออะไร
   ผมเองพยายามให้ลูกอ่านข่าวจากเว็บหนังสือพิมพ์ บ่อย โดยเน้นให้อ่าน น้อยๆ แต่
 บ่อยเป็นประจำ โดยผมจะเน้นให้ลูกชาย อ่านจับใจความ อ่านแล้วสรุปความ
  อ่านข่าวแล้ว บอกความรู้สึก ต่อมาให้ ลูกชาย สรุึปบทเรียนสอนใจ
 ที่ได้อ่านข่าวนี้ ทำแล้ว work มากครับ

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/419721

วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

4.00 อีกครั้ง ลูกชายผมทำได้

             หลายคนอ่านตรงนี้ อาจจะรู้สึกว่า  ผมกดดันลูกมากเกินไป เข้มเกินไป
ความจริงแล้ว ผมไม่ได้คาดหวังสูง ว่าลูกชายผมจะต้องสอบได้ที่ 1 ของห้อง
ตอนนี้ ลูกชายผม เรียนจบ ประถม 4 ที่ รร.มหาไถ่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


ชีวิตลูกชายผม วันๆ ก็เล่นเกมส์ ใน computer อ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัด
โดยเจ้าลูกชายผม มันชอบเรียนพิเศษเหมือนพ่อมัน  แต่ขี้เกียจทำการบ้านเหมือนผมเลย
ตอนนี้ เจ้ากำปั้นเรียน ภาษาอังกฤษที่ CLC+ Kumon และเรียน เลขที่คุมอง
ปิดเทอมลูกชายผม ก็ได้ไปเที่ยวบ่อยๆ ไม่ว่าจะไปเที่ยวทะเล หรือ ไปดู
เมืองประวัติศาสตร์ต่างๆ เช่น สุโขทัย พิมาย  หรือ อยุธยา (แม่มันชอบ)
มีได้เรียนเปียนโน บ้าง ว่ายน้ำบ้าง ครับ 
ลองมาดูกัน ว่าทำไม ลูกชายผมจึงสอบได้ที่ 1 เคล็ดลับที่สรุป คือ

1 ทบทวนบทเรียนโดยเร็ว ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ทบทวนเฉพาะใกล้สอบ
2  เรียนพิเศษเสริม ที่ คุมอง และ CLC ช่วยได้มากทั้ง อังกฤษ + คณิตศาสตร์
3 ลูกชายเคารพ ครู และตั้งใจเรียนดีมาก
4 ให้อ่าน กาตูนย๋ ความรู้วิทยาศาสตร์ บ่อยๆ อ่านสนุกกว่า ตำราเรียน

          ถึงแม้ว่า การเรียนไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุดในชีิวิตคนเรา  แต่ผมเอง ได้คิดว่า เรา สามารถปลูกฝังวินัย ในการเรียน ความรับผิดชอบ ต่อตนเอง ให้กับลูกชาย และที่สำคัญเจ้าลูกชาย ของผมมันชอบเรียนพิเศษ เหมือนผมตอนวัยรุ่นเลย  นี่เป็นสิ่งดีมากที่จะปลูกฝังนิสัยการเรียนที่ดีมากครับ

วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2557

สอนลูก สอนตัวเอง เขียนโปรแกรมคอม ง่่ายและสนุกกว่าที่คิด

        ผมเอง และ ผู้ปกครองทุกๆ คน คงอยากให้ลูกเก่งคอมพิวเตอร์ นั่นคงเป็น
เพราะว่าพวกเราเข้าใจ ตรงกันมานานแล้วว่า ทักษะทางคอมพิวเคอร์ สำึคัญอย่างยิ่ง
ต่อการทำงาน และ การทำเงิน เป็นกอบเป็นกำในอนาคต   ในการเป็นเซียนคอมพิวเตอร์
 ทุกคนต้องเขียนโปรแกรมเป็น ไม่ว่า จะเป็น บิลเกตต์ แห่ง Microsoft  หรือ



                     มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ค แห่ง Facebook  ก็ร่ำรวยจากการเขียนโปรแกรม
ออกมาทำตลาดด้วยกันทั้งนั้น       หลายคนอาจมโนไปว่า การเขียนโปรแกรมนั้น
 ยากเป็นยาขม ตอนนี้ มีแหล่งเรียนรู้ดีัๆ ในการเรียนการเขียนโปรแกรมที่สนุก
และง่าย เหมาะกับเด็กและผู้ใหญ่ลองดู ให้ไป ทดลองเรียนรู้ที่  http://code.org/learn
มี Mark Zuckerberg มาสอนด้วยน่ะอิๆ 


     
   บทเรียนแรก เรียนรู้การเขียนโปรแกรม โดยใช้เกมส์ Angry Birds
ในการนำเสนอที่น่าสนใจ เขียนโปรแกรมด้วย ระบบแผนภาพ พร้อมๆกับการ
เรียนเขียน code ของโปรแกรม  เป็นการฝึกสมอง เรียนรุ้กระบวนการ
เขียนคำสั่ง  การใช้ loop  (การกระทำซ้ำ)



คุณจะได้เรียนรู้มากมาย จากการเขียนโปรแกรม เพื่อแก้ปัญหาให้เจ้านกหัวแดงนั่น
หลักสูตร ออกแบบมาดีมาก ไม่ลองไม่รู้ครับ เนื้อหา ที่เป็นหัวเข้าทางวิชาการได้แก่้



Programming concepts

  • Sequencing
  • Loops
  • Conditionals
  • Functions
  • Functions with parameters
  • Variables
ตอนนี้ มีคนเรียนไปล้ว 34 ล้านคน อยากบอกว่า ไม่มีใครแก่เกินเรียนครับ อิๆ ผมไปก่อนครับ


วันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2557

การเงินไม่ยาก หากฉลาดออมเงิน

             การออมเงินที่ฉลาด โคตรง่าย คือ การออมก่อนใช้จ่ายทีหลังครับ
ทุกสิ้นเดือน เวลาเงินเดือนของราออก ออมเงิน สัก 20 % ของรายได้นั้น
ให้เราหักบัญชีแบบอัติโนมัติ  แล้วเอาเงินฝากเข้าสหกรณ์ หรือ ส่วนอื่น
ที่ได้ดอกเบี้ยสูง ถึงร้อยละ 5 เงินปันผลสหกรณ์ ไม่เสียดอกเบี้ยผมชอบมาก


การใช้เงินที่เหลือ จากการออมแล้ว บีบบังคับให้เรา ประหยัดใช้เงินเท่าที่มี
การมีเงินเหลือน้อย   เราก็จะปรับตัวใช้น้อยก็แค่นั้นครับ เริ่มต้นออมเงินวันนี้
แก่ตัวมามีเงินใช้ไม่ลำบากครับ เริ่มเลยครับ ออมร้อยละ 20 ไม่ยากเลยลองดู
ตัวอย่าง หากมี รายได้เดือนละ 30000 บาท ต้องออมเดือนละ 6000 บาท
หากทำแบบนี้ ตั้งแต่ยังหนุ่มๆ รับรองอนาคตไม่ยากจนแน่นอนครับ

วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

พาลูก ไปที่ทำงานด้วย ก็ดีน่ะ

               ปิดเทอม หรือ เวลาผม ต้องไป ขึ้นเวรที่โรงพยาบาล หากเป็นไปได้
ผมจะพกพาลูกชายไปด้วย เจ้ากำปั้น   ผมให้ลูกนั่งเล่น ipad หรือ อ่านหนังสือ
อยู่หลังห้องยา  ลูกผมจะได้พอรู้ว่า พ่อเป็น เภสัชกร ทำหน้าที่อะไรบ้าง จริงๆ
แล้วลูกผมไม่ได้สนใจอะไร มากนอก จากนั่่งเล่น คุกกี้รัน เป็นหลัก แต่ผมเอง

ตอนเด็ก ๆ ก็ไป นั่นเล่น วิ่งเล่น  ที่     โรงเรียนบ้านเลิงเปลือย (แม่เป็นครู)
 สถานีอนามัยบ้านแอวมอง (ป้าใหญ่ เป็นหัวหน้าอนามัย) และ
หรือ ห้องฉีดยาโรงพยาบาลขอนแก่น (ป้าเล็ก เป็นพยาบาล) แล้ว โตขึ้น
ผมก็เป็น เภสัชกร ตอนเด็กผมคืด ว่า เภสัชกร ไม่วุ่นวายดี ไม่ต้องเจอเลือด
เจอเข็มฉีดยา  เจอคนไข้เลือดอาบ อยู่ห้องแอร์ เย็นดี และ ผมก็เป็นเภสัชกรครับ

วันพุธที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557

ปีใหม่ แล้ว ทำอะไรดีๆ ด้วยสิครับ

ปีใหม่แล้ว ปี  พศ. 2557 หรือ คศ.2014 ปีนี้ผมจะทำสิ่งดีๆ
เพื่อตนเอง ผมสัญญาว่าผมจะ

1 ออกกำลังกาย ด้วย ดัมเบลล์ อย่างน้อยวันเว้นวัน

2 ออกกำลังกาย ด้วย การวิดพื้น ฝึกกล้ามท้อง
เขย่งเท้าบริหารน่อง ลุกนั่งบริหารต้นขาทุึกวัน

3 ลด ล่ะ เลิกใส่ contact lens ใช้แว่นตาแทน



และ ผมจะ ตัดนิสัยเสียทิ้งไปสัก 1-2 ข้อ โดยการ

1 งดดื่มกาแฟเย็น หันมาดื่มกาแฟดำแทน และ งดชาเขียวแบบที่มีน้ำตาลครับ
นอกจากนี้

2 ยังหาทางตัดรายจ่ายด้วยการยกเลิกบัตรเครดิต 2 ใบครับ

การทำสิ่งดีๆ สัก 2-3 อย่างในทุกปีใหม่ และ กำจัดสิ่งไม่ดี ออกจากชีวิตปีละ
1-2 เรื่อง ทุกๆ ปีใหม่ ในระยะยาวแล้ว จะส่งผลลัพธ์ที่ดี ต่อชีวิตมากมายครับ