ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ชีวิตเด็ก เรียน มหาวิทยาลัยปี วิศวะ เคมี

ลูก เรียน มหาวิทยาลัยปี 1 เทอม 1 วิศวะ เคมี อินเตอร์ เป็น อย่างไร



        ชีวิตตอนปี 1 สมัยก่อน ตอนผมเรียนปี 1 ช่างสนุกสนาน แปลกใหม่ เน้นเล่น ไม่เน้นเรียน เกรดพังพินาศ  แทบเอาตัวไม่รอดโชคดีที่ตอนปี 2 การเรียนดีขึ้นชัดเจน  เลยสามารถเรียนจบมาได้  มาถึงยุคคุณลูก ผู้ว่าเคมียาก  ไม่ชอบเรียนฟิสิกส์ แต่ต้องดันสอบติด วิศวะ  เคมี อินเตอร์ เริ่มแรก ก็ให้ลูกหัดขี่มอเตอร์ไซต์ก่อน พ่อมี ฮอนด้า เวฟ 110 เก่าๆ ให้ คันนึง พร้อมอาโอ๋เช่า(น้องสาวสุดที่รัก)  หออินเตอร์ให้นอนฟรีๆ 1 ปี  ตอนแรกแม่ป้อม  หวงลูกชายไม่ยอมให้ไปนอนในหอ      แต่เอาเข้าจริงๆ ก่อนเปิดเทอม น้องใหม่ปี1 ก็มีกิจกรรมตามโปรแกรมมหาวิทยาลัยเลิกราวๆ 5 ทุ่ม สุดท้ายแม้เจ้ากำปั้นเปลี่ยนใจให้ลูกชายนอนหอจนได้ 


     การเรียนของนักศึกษา วิศวะ เคมี อินเตอร์ ไม่ได้เรียนหนักอะไรมาก วันนึงเรียนแค่ 2-3 วิชาเท่านั้น แถมวันพฤหัส ไม่มีเรียน เทียบกับตอนผมเรียนเภสัช เรียนทุกวัน 8.00-17.00 น. บางทีมีเสรียนเพิ่มวันเสาร์อีกด้วย หากนักศึกษาแบ่งเวลา ในการอ่านทบทวนบทเรียน คงเรียนจบได้ไม่ยาก  แปลกใจมากลูกชายผมปกติชอบอยู่คนเดียวไม่คบใคร  ไม่มีเพื่อนจะเข้าชมรม TSI และ ชมรมคาธอลิก พร้อมยังร่วมประชุม สโมสรนักศึกษาอีกด้วยเรียกว่า  แบ่งเวลาไปกับกิจกรรมชมรมมาก การเรียน วิศวะ บางวันกว่าจะหมดคาบเรียน ก็ปาไปทุ่มกว่า  หากไปประชุมชมรมอีกบางวันลกไปถึง 4-5 ทุ่ม 




      กิจกรรมของ นักศึกษาปี 1 ไม่มี กิจกรรมรับน้องใหม่ อะไร แต่มี การปฐมนิเทศ  การยกช่อพระธาตุพนม  มีการซ้อมกีฬา  ลูกชายเจ้ากำปั้น ได้เล่น ฟันดาบ  มี กิจกรรมแนะนำชมรมต่างๆ   มีการทำงานกลุ่มกับเพื่อน เจ้าลูกชายยังเรียนแบบชิวๆ  มีนอนหลับ มีดูคลิป  เล่นเกมส์บ่อยๆ  พ่อต้องจ้างให้ฝึกทำโจทย์ ฟิสิกส์ เคมี แคลคูรัสด้วย tablet ซัมซุง 1 เครื่อง แต่ดูเจ้าลูกชายยังขยันไม่มากเท่าไร  มีจะขยันหน่อยก็ช่วงใกล้สอบเท่านั้นสุดท้ายแล้วเกรด  ออกมา ได้ตามเป้าคะแนนกลางๆ  ราวๆ 2.53 มีที่ทำคะแนนดี คือ อังกฤษ แคลคูลัส สารสนเทศ และ โปรแกรมมิ่ง ส่วนเคมี ฟิสิกส์ คะแนนไม่ค่อยดี  ถามแล้ว คือ ไม่ค่อยได้ทบทวนบทเรียนและฝึกทำโจทย์ให้มากพอ 




        ชมรม TSI เป็นชมรมที่เจ้ากำปั้น เข้าร่วมมากที่สุด TSI ย่อมาจาก ศูนย์ข่าว TSI - Tactic Of Special Investigation - มหาวิทยาลัยขอนแก่น  เป็น ชมรมนักศึกษาอาสาสมัครช่วยเหลืองานกองป้องกันและรักษาความปลอดภัย มีหน้าที่มากมาย เช่น

  • ช่วยเหลือกู้ภัยต่างๆ จิปาถะมากมาย เช่น รถเสีย เข้าห้องไม่ได้ จับงู
  • รักษาความปลอดภัย ในงานต่างๆ ของ มข
  • ปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บใน มข

วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เมื่อลูกชาย อ้วนลงพุง

 เมื่อลูกชายมีปัญหา อ้วนลงพุง สิว และ น้ำตาลในเลือดสูง



        ปี 2565 ลูกชายผม  เจ้ากำปั้น อายุ ได้ 18 ปีเต็ม เริ่มมีปัญหา  อ้วน ครับ น้ำหนัก มากกว่า 100 กิโลกรัม

สาเหตุก็ง่ายๆ เลย อ้วนเพราะ  ออกกำลังกายน้อยมาก   และ กินเก่ง กินจุ  ประกอบกับ ได้กินยา ฟลูออกซิติน ด้วย  น้ำหนัก จึงพุ่งไป กว่า 110 กิโลกรัม 

วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2565

เตรียม เรียน วิศวะ เคมี ปี 1

                  ลูกชาย ติด วิศวะเคมี  ต้องเตรียมเรียน เพราะ วิศวะเน้นการคำนวณมาก    เจ้ากำปั้นแต่เดิมไม่ชอบคำนวณเท่าไหร่   แต่ดันสอบ ติด วิศวะ เคมี นานาชาติ มข งานเข้าแหละทีนี้ วิชาที่ต้องเตรียมเรียนคือ




  1. คณิตศาสตร์ ให้เรียนที่  https://en.khanacademy.org/ เอ มข ไม่มีเรียน คณิตศาสตร์ นิ
  2. ฟิสิกส์ https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KU+KU002+2018/about
  3. เคมี https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KU+KU003+2018/about
  4. แคลคูลัส  https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:RMUTT+RMUTT014+2018/about

นอกจาก เรียน ออนไลน์ ล่วงหน้าแล้วยังมี ให้ ลูกหัดทำแบบฝึกหัดอีกด้วย  และยังให้ มีหนังสือ

แคลคูลัส 1 สำหรับ วิศวกร อีกด้วย  หนาทีเดียว มากกว่า 500 หน้า 



วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2565

เตรียมลูกชาย เรียน วิศวะ มข

 เตรียมลูกชายก่อนเข้าเรียน มหาวิทยาลัย



                            เจ้ากำปั้น  ลูกชายผมใกล้จะจบ ม.6 แล้ว สอบติด คณะวิศวะ  เคมี  รอบพอร์ต  มหาวิทยาลัยขอนแก่น  เรียนใกล้บ้านก็ดี  พ่อแม่ เบาใจเยอะ   ก่อนจะเริ่มเรียน ปี1 ในช่วง เดือน กรกฏาคม 2565 สิ่งที่ผมกังกวลในตัวลูกชายคือ  เรื่องการเรียน และ การใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในมหาลัย   ข้อดี ของเจ้ากำปั้น คือตั้งใจเรียนในห้องเรียน   แต่เรื่องการทบทวนตำราเรียน  เนื้อหา  การฝึกทำโจทย์ข้อสอบ เจ้ากำปั้นยังทำได้ไม่ดีนัก   ดังนั้นการฝึกลูกให้มีวินัย สามารถดูแลจัดการตนเองได้ทั้งในเรื่อง การทบทวนบทเรียน การส่งงาน การฝึกทำข้อสอบ  ส่วนนี้ยังต้องฝึกอีกเยอะ  โดยเฉพาะ นักศึกษา วิศวะ ต้องเจอกับ วิชา คณิตศาสตร์  แคลคูลัส และฟิสิกส์  


            นอกจากนี้ เรื่องสุขภาพ ความปลอดภัย  ของเจ้ากำปั้น ก็น่าห่วง  โดยเฉพาะอาหารการกิน  การออกกำลังกาย     ที่จะต้องมีวินัยในการเรียน การทบทวน  การเตรียมสอบ   เป็นที่่รู้ๆ กันอยู่ว่า คณะวิศวะ  มีเด็กเรียนไม่จบ โดนรีไทร์ในสัดส่วนที่เยอะอยู่เหมือนกัน   ดังนั้นก่อน  เปิดเทอมกำปั้น ต้องเรียนล่วงหน้าออนไลน์ ในวิชา ดังต่อไปนี้   คณิตศาสตร์  แคลคูลัส  อังกฤษ  เคมี และฟิสิกส์   พร้อมทั้งมีวินัยในการจัดสรรเวลาทบทวนบทเรียน ฝึกทำโจทย์ทุกวัน วันละ 2-3 ชั่วโมง  และต้องมีเวลามาออกกำลังกายอีกด้วย  3 เดือนกว่า ช่วง มีนาคม ถึง มิถุนายน กำปั้น ต้องหัดทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้จนเป็นนิสัย  อีกทั้ง ยังต้องหัดขับรถอีกด้วย  ทั้ง มอเตอร์ไซด์  และ ขับรถยนต์อันนี้ ต้องหัดให้เป็น เลย 



สรุป การเตรียมเรียนมหาวิทยาลัย

1 เรียนออนไลน์หรือ อ่านตำราล่วงหน้า

2 สร้างนิสัย การกิน การออกกำลังกาย และ เตรียมตัวสอบที่ดี

3 หัดควบคุมค่าใช้จ่าย ออมเงิน ศึกษาเรื่องการลงทุน

4 หัด ขับ รถยนต์ และ มอร์เตอร์ไซต์ อย่างปลอดภัย 



วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

นี่คือสิ่งสำคัญที่ข้าพเจ้าสอนลูกอยู่เสมอ




 นี่คือสิ่งสำคัญที่ผมสอนลูกชายของผมเป็นประจำ


  1. ทำอย่างไรชีวิตจะมีความสุข
  2. หัวใจสู่ความมั่งคั่ง
  3. การออม การลงทุน
  4. ความสัมพันธ์ที่ดี
  5. การสร้างสุขภาพดี
  6. หลักการออกกำลังกาย
  7. แนวคิดอาหารยุคใหม่
  8. การสร้างนิสัยสู่ความสำเร็จ
  9. ทักษะการเรียนรู้
  10. การเสาะหางานบันดาลใจ

                พ่อแม่หลายคนอยากให้ลูกประสบความสำเร็จ ได้ เข้าคณะยอดฮิต ฉลาด เรียนเก่ง  อะไรประมาณนั้น  ผมกลับมองว่า  สิ่งแรกที่ลูกชายผมต้องมี คือ มีความสุข  เมื่อเขามีความสุขแล้ว เขาต้องเรียนรู้จยชำนาญว่า  ใช้ชีวิตอย่างไรจะมีความสุข  จากนั้น เขาต้องเข้มแข็ง พอที่จะเอาตัวรอดในโลกใบนี้ได้  นั่นคือสิ่งสำคัญอันดับแรกที่พ่อแม่  ควรสอนพวกเขา 

วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

พูดคุยกับลูกทุกวัน กิจกรรมทำแล้วชีวิตดี

ฝึกฝนการคิดกับลูกอย่างสร้างสรรค์

                          ปี 2565 นี้ ผมเอง ได้เริ่ม จัดสรรเวลา คุยกับลูกทุกคืน จุดประสงค์เพื่อต้องการให้ ลูกชายผม (เจ้ากำปั้น) ได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็ง และ มีความสุขกับชีวิต การพูดคุยกัน ทุกวันทำให้ผมได้ เปิดโอกาส ให้ลูกได้ มีการสนทนา  แลกเปลี่ยนความคิดเห็น  และ เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กันและกันฟัง  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทั่วๆ ไป เรื่องต่างๆในชีวิตประจำวัน  หยิบเอาข่าว หรือ เหตุการสำคัญ มาคุยกัน เช่น เรื่อง


  1. หมูมีราคาแพง และโรคอหิวาต์แอฟฟริกัน
  2. กรณีมอเตอร์ไซด์ตำรวจชน หมอกระต่ายบนทางม้าลายจนเสียชีวิต
  3. การระบาดของโควิดระลอกใหม่
  4. ความเชื่อ ทางศาสนาพุทธในแบบไทยๆ 
  5. การก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ 
โดยในทุกๆ วัน จะให้ลูกชาย  เล่าเรื่อง การเรียนในแต่ละวัน ว่าทำอะไรบ้าง อ่านตำรา เรียนออนไลน์ หรือ ฝึกทำข้อสอบในวิชาไหนบ้าง  แล้ว ให้ลูกจดบันทึกการเรียนรู้ใน ลงในสมุดทุกวัน เพื่อสร้างนิสัยที่ดี นอกจากนี้ ยังมี การให้การบ้าน ลูกไปศึกษาเพิ่มเติม  เกี่ยวกับ สาเหตุของหมูราคาแพง  และ ตอนนี้ ให้ลูกชายไปค้นสรุปเนื้อหา atomic habits แล้วมาเล่าให้พ่อฟังเพราะหนังสือเล่มนี้ เขียนได้ดีมากๆ เลย  




สรุปประโยชน์ที่พ่อลูกได้คุยกันทุกวัน
  • ความสัมพันธ์พ่อลูกดีขึ้น
  • ลูกชายได้ฝึกทักษะการพูด
  • พ่อได้ฝึกทักษะการฟัง
  • ได้มีการแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดคนสองวัย
  • สอนลูกเกี่ยวกับการคิดแบบมีตรรกะ

วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2565

ผมทำสิ่งนี้ ก่อนนอน กับลูก เกือบทุกวัน

 กิจกรรมก่อนนอน กับ ลูกชาย

     ในเกือบทุกคืน  ผมกับลูกชาย จะมีกิจกรรมร่วมกัน เกือบทุกคืน  และแน่นอนชีวิตมีความสุขมากขึ้นมาก  ผมรู้สึกดีกับตัวเองมาก  ที่ได้ทำสิ่งดีๆกับลูกทุกวัน  มันมีความหมายมาก



1 พาลูกออกกำลังกายท่าต่างๆ ดังต่อไปนี้   squat ring fit chest  ring fit back calf raise plank bicep curl shoulder press และ kettlebell swing

2 สอนลูกทำสมาธิ บริกรรม คาถาตามความเชื่อ เช่น หายใจเข้า ขอบคุณ หายใจออก พระเจ้า ส่วนตัวผม บริกรรม  สิ่งทั้งหลายทั้งปวง  ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น เป็นต้น

3 ให้ลูกเล่าให้ฟังว่าวันนี้ทำอะไรบ้าง ตั้งแต่เช้าจนค่ำ

4 สอนลูกเรื่องที่จำเป็น วันนี้ สอนเรื่องความสุข ที่อยู่รอบๆ ตัว

5 พาลูกอธิฐานขอพร และ ขอบคุณพระเจ้า

6 พูดคุยเรื่องต่างๆ ตามสบาย ตามเหตุการณ์

7 สอบถาม คำถามให้ลูกตอบอย่างใช้ความคิดอย่างมีเหตุผล 

8 กอดลูก บอกรักลูกก่อนนอน และ บอกว่า พ่อขอให้ลูกมีความสุขนะ



วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2565

พาลูกคุยกับพระเจ้า

พ่อชาวพุทธ  พาลูกชายติดต่อพระเจ้า


                   ลูกชายผมเอง ปีนี้ อายุกว่า 18 ปี  แล้วในที่สุดก็ให้ เขาก็ได้ตัดสินใจนับถือ ศาสนาคริสต์ เขาเชื่อในพระจ้า  ผมเองจริงแล้ว   ไม่อาจนับว่า   เป็นชาติพุทธ   แบบคนไทยเป็นกัน  ซึ่ง คนไทย เชื่อ เรื่อง บุญ กรรม  สิ่งศักดิ์สิทธิ์   เรื่องเหลือเชื่อ ปาฎิหารย์ต่างๆ   ส่วนผมเชื่อ เรื่อง การเข้าสู่หนทางพ้นทุกข์  ด้วยความเพียรในการเจริญสติ 



                        การภาวนา    จะว่า ผมไร้ศาสนาก็ย่อมได้  ผมไม่ขุ่นเคืองอะไร  ถึงแม้ ลูกชาย จะศรัทธาใน พระผู้เป็นเจ้า   พระแม่มาเรีย  และการไถ่บาป (ลูกผมเรียนโรงเรียนมหาไถ่)  ผมเองก็ยังพาลูกชายฝึกฝนเชื่อมโยงกับพระเจ้าในทุกวัน ได้แก่


  1. การสวดอธิฐานขอพรต่อพระเจ้า และ เขียนลงไดอารี่
  2. การขอบคุณพระเจ้าในสิ่งที่เจาะจง และ เขียนลงไดอารี่
  3. การฝึกสมาธิ ยุบหนอ คือ สรรเสริญ  และ พองหนอ คือ พระเจ้า บริกรรมไปเรื่อยๆ





วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2565

ออกกำลังกาย ช่วงใกล้สอบ

 พาลูกออกกำลังกาย ช่วงใกล้สอบ 


                           ในวันที่ 19-20 กพ 2565 ลูกชายผมเจ้ากำปั้น ต้องสอบ NETSAT ของ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  การเรียนออนไลน์กับโรงเรียน  พร้อมกับเตรียมตัวสอบในเวลาอีกประมาณ 1 เดือนไม่ใช่เรื่องง่าย  นอกจากสอบ NETSAT แล้ว  เดือนมีนาคม ยังมี การสอบ 9 วิชาสามัญ สอบ GAT PAT เรียกว่า มี สนามสอบรอเจ้ากำปั้น มากมายเลย  แต่ พ่อผู้รักสุขภาพ  อย่างผม ก็ให้ลูกชาย เดินวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า สามสิบนาที  และตอนค่ำ ยังมีการออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อโดย ใช้ KettelBell บริหารร่างกายหลายท่า มี ใช้ ท่า Squat และ Plank ร่วมด้วยในการออกกำลังกายชุดนี้



ท่าออกกำลังกายจาก KettelBell 

  1. Bicep Curl
  2. KettelBell Swing
  3. Shoulder Press
  4. Tricep extension
  5. Forearm Curl

              


                     การออกกำลังกายในช่วงใกล้สอบ จะช่วยลดความเครียดสะสม ในการเตรียมสอบได้ดี  ทำให้นอนหลับสนิท  และ ช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อไว้ด้วย  โดยท่าออกกำลังกายที่ ได้บริหารมัดกล้ามเนื้อหลายส่วนก็คือ  ท่า Squat และ Plank




วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2565

พาลูกชายฝึกสมาธิ

 พาลูกฝึกทำสมาธิไปด้วยกัน


ประโยชน์ของการฝึกสมาธิ

  1. ช่วยคลายเครียด
  2. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
  3. เป็นพื้นฐานของการฝึกสติ
  4. ทำให้ใจสงบ

            ผมเอง  หลีกเลี่ยงการสอนลูกฝึกทำสมาธิมานาน   เพราะลึกๆ แล้วผมเองก็ไม่ค่อยฝึกทำสมาธิบ่อยหนัก   แต่เมื่อผมเริ่มฝึกทำสมาธิช่วงสั้นๆ  บ่อย ขึ้น ทำให้ ผมรู้เท่าทันความโกรธ  และตามดู ตัวกู ของกูที่เกิดขึ้นมา บ่อยๆ  เวลามีเรื่องไม่สบายใจ  ผมพบว่า เมื่อเรารู้ตัว ว่า มี อัตตาเกิดขึ้น  พอมีมาก ความรู้สึกทุกข์ใจ ก็มักจะตามมา  แต่ถ้ามีสติ รู้เท่าทัน  อารมณ์ หรือ  ความคิดปรุงแต่งของเรา ตัวผมเองก็สามารถระงับ ความโกรธ ความไม่สบายใจได้มากขึ้น  ซึ่งดีมากเลยเรียกว่ามีพัฒนาการ จากแค่สมาธิ  ไปสู่ การคลายทุกข์ ซึ่งมันคือหนทางแห่งสติ  เริ่มมีปัญญาขึ้นมาแล้ว   มาถึงตอนนี้ วัยที่ลูกชายผมมีอายุครบ 18 ปี และเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น  กำปั้น  พร้อมแล้วที่จะเรียนรู้  การฝึกสมาธิ   แบตามดูท้อง  ยุบหนอ พองหนอง ตามลมหายใจเข้า ท้องพอง  หายใจออก ท้องยุบนั่นเอง



ขั้นตอนการฝึกสมาธิ

  • ฝึกแบบง่ายๆ ไม่ต้องหลับตาก็ได้
  • หายใจเข้า ท้องพอง 
  • หายใจออก ท้องยุบ
  • หายใจเข้าออก ช้าๆ ลึกๆ
  • เริ่มจากฝึกสั้นๆ ก่อน  แค่ 1 นาที 
  • ขยับเป็นฝึกมาธิ  2 นาที
  • เพิ่มเวลาฝึกก 3  4   5 นาที ไป เรื่อยๆ